“กวาง AB Normal” เปิดใจครั้งแรก จุดระเบิดเลิก “น้ำหวาน ซาซ่า” ช้ำแทบร่วงต้องขายเรือนหอ
“กวาง AB Normal” ยันเลิก “น้ำหวาน ซาซ่า” ไร้มือที่ 3 เผยจุดแตกหักแยกทางรัก
ดูเหมือนการเลิกรากันของ นักร้องเสียงดี “กวาง เอบีนอร์มอลล์” หรือ “กวาง-ศิริศิลป์ โชติวิจิตร” กับ “น้ำหวาน ซาซ่า” หรือ “น้ำหวาน-พิมรา เจริญภักดี” จะมีดราม่าตามมมาเป็นระลอก
โดยทั้งคู่ได้ออกมาเป็นใจ ถึงสาเหตุของการตัดสินใจยุติความสัมพันธ์ครัง้นี้ พร้อมเคลียร์กระแสข่าวลือและดราม่า ซึ่ง ‘น้ำหวาน” ได้เปิดใจอีกครั้งถึงประเด็นนี้ พร้อมอัปเดตสภาพจิตใจให้ฟังว่า
สภาพจิตใจตอนนี้?
“ก็สวิงนะคะ บางทีก็ดี บางทีก็ดาวน์ เป็นเรื่องปกติ แต่เราก็มีกำลังใจจากคนรอบข้าง ที่ช่วยให้เรามีความสบายใจมากยิ่งขึ้นค่ะ ถามว่าเยียวยาตัวเองยังไง ก็ใช้ชีวิตไปตามปกติ คิดถึงเป้าหมายในอนาคต ก็คือเปลี่ยนโฟกัสไปค่ะ แล้วก็ไปทานข้าวกับเพื่อน ออกมาทำงาน มันก็ช่วยฮีลได้ คือชีวิตมันเปลี่ยนไปในแง่ของชีวิตประจำวันค่ะ”
ย้อนกลับไปมันเกิดอะไรขึ้น?
“หวานขออนุญาตไม่ลงไปประเด็นเหตุการณ์วันนั้นที่มันเกิดขึ้นนะคะ แต่ว่ามันก็เกิดจากเราสองคนตัดสินใจร่วมกัน ในปัญหาที่เราแก้ไม่ได้ อย่างที่หวานบอกไปว่า มันเหมือนเราวิ่งออกมา แล้วเราเห็นว่าเพื่อนที่วิ่งมากับเราเขาเหนื่อยหรือเขาหมดแรง ถ้าเราอยากไปเอาเหรียญทอง เราก็ต้องลากเขาไปให้จบใช่ไหมค่ะ อันนั้นเราอาจจะรักตัวเอง แต่ถ้าเรารักเขา ถึงเขาไม่ต้องพูดว่าเขาเหนื่อยหรือเขาไปไม่ไหว แค่เราเห็นหน้าเราก็รู้แล้ว ถ้าเรารักเขา เราก็ต้องให้เขาพัก เหรียญทองตรงข้างหน้าอาจจะไม่ต้อง ความรู้สึกของเขาน่าจะสำคัญกว่า”
ก่อนจะถึงจุดที่เหนื่อย เราผ่านอะไรด้วยกันมาบ้าง?
“หวานกับพี่กวางผ่านอะไรกันมาเยอะมากนะคะ ตลอดหลายปีที่คบกัน ตั้งแต่วันแรกก็สู้กันมา ณ ปัจจุบัน มันก็สู้กันมาเยอะ ผ่านอะไรกันมาเยอะค่ะ จุดเหนื่อยของคนเรามันไม่เท่ากันค่ะ เรารู้สึกว่าเรายังวิ่งต่อได้ แต่ในอีกในหนึ่งนัยหนึ่ง เราไม่ได้บอกว่าเขาไม่อดทน แต่ว่าพลังของเขาอาจจะวิ่งต่อไปไม่ได้ ตรงนี้เราต้องเข้าใจค่ะ มันบอกไม่ได้ว่าอะไรที่มันเหนื่อย ความอดทนแต่ละคนมันอาจจะไม่เท่ากัน”
ใช่เวลาพูดคุยกันนานไหน ก่อนจะตัดสินใจยุติสถานะสามีภรรยา?
“คุยกันก่อนหน้าที่จะโพสต์ 1 วันค่ะ มันก็คงเป็นปัญหาอะไรต่างๆ ที่มันถูกสะสมมา โดยที่มันได้รับการระบายออกแล้ว เพียงแต่ว่ามันอาจจะเป็นจุดที่แบบ…เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันเล็กนิดเดียว แต่รีแอคชั่นมันอาจจะใหญ่ ก็คุยกันอยู่ 2 วัน แต่ก็เลิกกันด้วยดีนะคะ”
เคยคิดไหมว่าจะเดินมาถึงจุดนี้?
“ไม่มีใครคิดค่ะ แฟนกันปกติก็ไม่ได้คิด ยิ่งคนที่มีเป้าหมายจะแต่งงานกันยิ่งไม่คิดนะคะ”
ตลอดเวลาที่คบกัน มีทะเลาะกันจุกจิกไหม?
“จุกจิกค่ะ นิสัยไม่เหมือนกัน แต่ว่ามันไม่ได้เป็นอะไรที่รุนแรง คือบางทีก็ทีที่เลิกเลยๆ เป็นเรื่องปกติเหมือนกับทุกคน แต่สุดท้ายเราไม่ได้จะเลิกกันจริงๆ ค่ะ เราปรับความเข้าใจกันอยู่เสมอ เรารู้จักกันและกันดีมากค่ะ (แต่ครั้งนี้เลิกกันจริงๆ?) อย่างที่หวานบอกค่ะ ว่าปัญหามันแก้ร่วมกันไม่ได้ เราก็อย่าแก้ เราผ่านการพยายามที่สุด ถามว่าหวานสู้ได้อีกไหม หวานสู้ได้ หวานไปต่อได้ แต่ว่าต้องดูเพื่อนร่วมทางเราด้วย ว่าเขาหมดแรงค่ะ”
คำว่าเลิกเลยๆ มันถูกพูดมาตลอดในความสัมพันธ์ไหม?
“ไม่ค่ะไม่ น้อยมาก มันอาจจะพูดด้วยอารมณ์ก่อน แบบเวลามีปัญหากัน แต่มันไม่เคยเกิดขึ้นจริงๆ ค่ะ คุยกัน 5-10 นาทีก็ดีกันแล้ว ไม่ได้มีอะไร (แล้วทำไมตอนนี้มันถึงกลับมาไม่ได้แล้ว?) ปัญหามันอาจจะมีความใหญ่และเล็กต่างกันมั้งค่ะ อันนี้มันเป็นปัญหาเล็กๆ เรื่องที่เกิดบนเรือมันไม่ใหญ่เลย แต่อาจจะเป็นปัญหาที่เรามองไม่เห็นทางออก ปัญหาอื่นเรามองเห็นทางออก ปัญหานี้เรามองไม่เห็นทางออก แล้วก็ผ่านการพยายามแก้ พยายามปรับค่ะ”
ปัญหาเล็กๆ ที่ถูกแก้มันจบไหม หรือยังมีชนวนอยู่?
“ถ้าส่วนตัวหวานกวางสองคน เราเคลียร์ทุกครั้งค่ะ แต่ว่าถ้าเป็นปัญหาอื่นๆ บางทีหวานเป็นคนกลาง หวานมีสองมือ หวานแก้ไม่ได้ทุกอย่าง หวานต้องอาศัยความร่วมมือในการแก้ ถ้าปัญหาเล็กหวานแก้ได้ แต่ปัญหาใหญ่ก็อาจจะต้องอาศัยอื่นๆ ในการช่วยค่ะ”
“กวาง” โพสต์ว่ามีเรื่องมีบุคคลที่สามเข้ามาเกี่ยวคือคุณแม่ของเรา?
“หวานอยากจะบอกว่าใจของหวาน ขออนุญาตไม่ลงดีเทล แต่หวานอยากบอกว่า เรื่องของครอบครัว ปัญหาส่วนตัว ใจหวานไม่ได้อยากให้ใครรู้ ว่าปัญหา 1 2 3 4 ต้องมานั่งพูดถึงปัญหาที่มันลึกลับซับซ้อนหรือบานปลาย ไม่เคยเกิดขึ้นกับหวาน หวานตั้งใจแค่จะบอกแค่ว่าเรามีปัญหาที่เราแก้กันไม่ได้ เราไม่ได้โกหก แต่ตั้งใจที่จะบอกประมาณหนึ่ง เพราะว่าการพูดบางปัญหา มันส่งผลไม่ใช่แค่กับเราสองคน มันส่งผลกับคนอื่น เรื่องในครอบครัวหวานอยากเก็บไว้ในครอบครัว เพียงแต่ว่าในเมื่อวันนี้มันเป็นอย่างนี้แล้ว หน้าที่ของเราก็คือต้องรับผิดชอบค่ะ เพราะมันก็แก้ไขอะไรไม่ได้”
การไปไหนมาไหนด้วยกัน 3 คนเป็นปัญหาใหญ่ไหม?
“คือต้องบอกว่าปกตอพี่กวางกับหวาน ใช้เวลาอยู่ด้วยกันเยอะมาก แล้วใน 24 ชั่วโมงของหวาน หวานพยายามจัดสรรให้ดีที่สุดสำหรับทุกคนอยู่แล้ว เสร็จงานไปหาพี่กวาง บางวันเรารู้สึกว่าพรุ่งนี้เราทำงานอีก เราทิ้งแม่ไว้ข้างหลัง แม่จะเหงาหรือเปล่า พรุ่งนี้พี่กวางเอาไงชวนแม่มาไหม พี่กวางก็บอกว่าเอามาสิ เดี๋ยวไปกินข้าวกัน คือทุกครั้งเขาก็ค่อนข้างที่จะเป็นคนออกปากชวนด้วยซ้ำ แต่ถึงไม่ได้มีแม่ มันก็มีเพื่อนเขา ที่อยู่บ้านเดียวกับเขาอะค่ะ ก็คือไปไหนมาไหนด้วยกันเป็นกลุ่มอยู่แล้ว อย่างเทศกาลสำคัญต่างๆ ปกติเราใช้เวลาสองคนเยอะแล้ว วาเลนไทน์หรืออะไรก็จะชวนแบบเพื่อนไปกินข้าวกัน อย่างไปดำน้ำเหมือนกัน ทริปนั้นหวานเข้าไปอ่านคอมเมนต์มา เขาบอกว่าจะไปดำน้ำกันสองคน ทำไมคุยแม่ต้องเข้ามายุ่ง ทริปนั้นไปกัน 6 คนค่ะ ทุกครั้งไป 10-20 คนตลอด คุณแม่ไม่ได้ไปเฝ้า คุณแม่ไปเพื่อดำน้ำ พอดำน้ำเสร็จ กินข้าวเย็นเสร็จเขาเข้าห้อง ที่เหลือหวานก็สามารถอยู่กี่โมงก็ได้ คุณแม่ไม่ได้กระทบในเรื่องของความสัมพันธ์ ถ้าเขาเจตนาไม่ดี เขาคงบอกให้เลิก นี่ไม่เคยเลย เข้าข้างพี่กวางด้วยซ้ำในการทะเลาะกับหวาน”
การไปไหนมาไหนกัน 3 คน เคยมีคุยกันไหมว่า 3 คนอีกแล้วนะ?
“มันไม่ได้บ่อยขนาดนั้นค่ะ ถ้าช่วงไหนมันถี่เรารู้ตัว ว่าเราชวนแม่มาบ่อย ก็เว้นว่าง ซึ่งคุณแม่เองเขาก็ไม่ได้อยากมา มีแต่เราสองคนผลัดกันชวนมาทำกับข้าว แล้วคุณแม่ก็ติดน้องหมาที่เลี้ยงด้วยกัน ก็จะแวะซื้อขนมมาให้ แล้วบ้านเราอยู่ใกล้กัน ถ้าตัวไม่ได้ไปเขาก็ฝากของกินไปกับแม่บ้าน เพราะแม่บ้านคนเดียวกัน”
คุณแม่ได้พูดกับเราไหม ว่ากวางโอเคกับแม่หรือเปล่า?
“คุณแม่กับพี่กวางทราบแก่ใจว่าเขาโอเค พี่กวางยังเคยเอ่ยปาก ว่าแม่กับกวางไม่มีปัญหา แม่กับกวางเข้ากันได้ดี”
ตอนนี้หลายคนมองว่าคุณแม่ทำให้ความสัมพันธ์ของเราจบลง?
“ความรักเป็นเรื่องของคนสองคนนะคะ หวานเชื่อว่าคนอื่นไม่ได้มีผลขนาดนั้น ถ้าไม่ใช่มือที่สามที่เป็นตัวเป็นตนขึ้นมาเนาะ ถ้าเราแข็งแรงพอ อะไรมันก็เป็นไปได้หมด เราสามารถฝ่าฟันทุกอย่างได้หมด หวานไม่ได้โทษใคร โทษตัวเองที่อาจจะจัดสรรเรื่องนี้ได้ไม่ดีพอ ไม่โทษใครเลย ตอนเขาโพสต์หวานก็บอกให้เขาลบนะคะ เพราะว่าคนอื่นไม่ใช่คนที่ทำงานเหมือนเรา ไม่ควรได้รับผลกระทบ เราอยู่ตรงนี้มานานเราเข้าใจอยู่แล้ว แต่ในเมื่อพี่กวางเขาตัดสินใจแบบนั้น เราก็เคารพสิทธิ์ตรงนั้น”
เขาพยายามอธิบายว่าที่โพสต์เพราะมันไม่ใช่เรื่องมือที่สาม แต่เป็นปัญหาครอบครัว?
“เขาก็อาจจะเคลียร์ในส่วนที่เป็นประเด็นเรื่องนักศึกษา แต่ว่าในส่วนอื่นก็เป็นข้อความเสริมขึ้นมา ซึ่งหวานเชื่อว่าผ่านการพิจารณาจากพี่กวางมาอย่างดีแล้ว หวานก็บอกให้ลบ แต่ว่าเราก็ต้องเคารพสิทธิ์ของเขา เพราะมันเป็นพื้นที่ของเขาค่ะ”
ในส่วนของเรื่องนักศึกษาที่เป็นข่าว เป็นส่วนนึงที่ทำให้ปัญหามันลุกลามไหม หรือเราแคบเคืองใจไหม?
“หวานแค่ให้เขาดูเฉยๆ ค่ะ เพราะคอมเมนตืมันเป็ยของเขา แล้วหวานก็รู้สึกว่าหวานกำลังโดนทุกทาง เพราฉะนั้นเรื่องนี้ขอเคลียร์ไปเป็นเรื่องๆ อย่าเอามารวม อย่าให้มีประเด็น เพราะเราเลิกกันไม่ได้มีมือที่ 3 ณ วันที่เราเลิกกันไม่มีทั้งฝั่งหวานและฝั่งเขา ยืนยันแบบนี้ แต่ด้วยอารมณ์เวลานั้นที่รับอะไรมาเยอะๆ อาจจะแคปเห็นชื่อคู่เราก็ส่งไปให้ หวานก็ขอโทษเขาไปแล้ว หวานไม่ควรไปคิดแบบนั้นกับเขา เพราะว่าหวานควรจะรู้จักเขาดีมากกว่าใครๆ”
ใครเป็นคนบอกเลิกใคร?
“มันมองหน้ากันก็รู้ค่ะ มันน่าจะถึงจุดที่เราต่างคนต่างต้องลดระดับ มันคือการลดระดับเพื่อยกระดับความสัมพันธ์ สำหรับหวานนะ เราลดปัญหาตรงนี้ แต่เรายังเป็นเพื่อนกันอยู่ ดีกว่าวันนึงเรามาฟาดกันเอง คราวนี้เป็นเพื่อนกันไม่ได้แล้ว ทีนี้ที่ผ่านมาทั้งหมดมันก็คือศูนย์เปล่า ไม่มีใครคิดว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้าย ท้ายสุด อันนี้ตอบตรงๆ คิดว่ามันน่าจะมีทางแก้ เพราะตัวเรายังไหว ตัวเราสู้ได้”
ล่าสุดที่มีประกาศขายเรือนหอ เราใจหายไหม?
“เรือนหอหรือบ้านที่เขาอยู่ มีความตั้งใจจะขายมาสักระยะนึงแล้ว ตั้งแต่ก่อนที่จะเลิกกัน เพียงแต่ว่าหลายคนอาจจะไม่ทราบ เพราะฉะนั้นเขาโพสต์ขึ้นมาด้วยจังหวะไทม์มิ่งที่อยู่ติดๆ กันไปหมด คนก็จับโยงมาว่าขายเพราะว่าเลิกกัน แต่จริงๆ ไม่ใช่ประเด็นนี้โดยตรงนะคะ มีความตั้งใจที่จะขายอยู่สักระยะใหญ่แล้ว อาจจะขยับขยายอะไรของเขาค่ะ (เขาบอกเป็นภาระ?) ในส่วนคำตอบของหวานตอบได้แค่นี้ หวานทราบเฉยๆ แต่ไม่สามารถพูดเหตุผลต่างๆ แทนเขาได้”
เราได้คุยไหม ด้วยความที่เป็นเรือนหอด้วย มันคือบ้านในอนาคต?
“ไม่ได้คุยค่ะ หวานเห็นเขาโพสต์ หวานทราบอยู่แล้ว ทราบมาระยะใหญ่มากๆ ก็เลยไม่ได้ตกใจ ไม่ได้เซอร์ไพรส์ ไม่ได้มีคำถาม เพียงแต่ว่าเข้าใจว่าคนก็จะมองหรือจับโยงมาเข้าเรื่องนี้ ก็เป็นเรื่องที่เราก็ต้องเตรียมคำตอบเอาไว้”
เป็นไปได้ไหมว่านี่อาจจะเป็นสัญญาณ ว่าจะไม่ได้แต่งงานในอนาคตแต่แรกอยู่แล้ว?
“ไม่ใช่ค่ะ เขาตั้งใจจะขายของเขาอยู่แล้ว บ้านเป็นแค่สิ่งที่ตั้งอยู่ คนเราในชีวิตย้ายบ้านตั้งหลายหลัง ไม่ได้เป็นเครื่องการันตีว่าต้องมีบ้านหลังนี้แล้วจะต้องแต่งงาน ถูกไหมคะ เพียงแต่ว่าพอเขาจะขายเราช่วยกันปรึกษาหารือกันอยู่แล้วตั้งแต่ต้น หวานเลยไม่ได้ตกใจ ไมได้แปลกใจ ไม่ได้คิดว่าเรือนหอนี้จะเป็นเครื่องการันตีการแต่งงาน การแต่งงานอยู่ที่คน 2 คนมากกว่า บ้านหลังนี้ก็เป็นบ้านของพี่กวางค่ะ”
จากที่ “หวาน” พูดมา เหมือนว่าเราพร้อมไปต่อ แต่อีกคนเขาเดินไปกับเราไม่ไหว?
“ความจริง ก็น่าจะเป็นแบบนั้นนะคะ แต่เราไม่ได้โทษเขา อย่งาที่หวานบอก ความอดทนคนเราไม่เท่ากัน หวานเดิน 10 ก้าวเหนื่อย ทุกคนเดิน 42 กิโลสบายๆ ไม่ได้แปลว่าเขาไม่สู้ หรือสู้สุดทางของเขาแล้ว แต่ในขณะที่เราสู้ไปได้อีก อันนี้มันก็เป็นในส่วนของเรา แล้วแต่ความอดทน ความอดทนคนเราไม่เท่ากัน”
เราเป็นคนกลางมาโดยตลอด เคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้นในครอบครัวและ “กวาง” เป็นยังไงบ้าง?
“มันเป็นสถานการณ์ที่ยาก ใครที่เป็นคนกลางในเรื่องของอะไรก็น่าจะเข้าใจ เพียงแต่ว่าปกติเวลาเราเคลียร์เรื่องอะไร เราก็จะมีอีกคนที่เข้ามาซัพพอร์ตเสริม เพื่อไปช่วยกันแก้ แก้คนเดียวไม่ได้ หวานมีสองมือ เป็นคนกลางเหนื่อยค่ะ แต่ปกติเขาดีกัน เขาก็รักกันดี แต่ถ้าเกิดทัศนคติที่ไม่ตรงกันขึ้นมาบางเรื่อง เราก็ต้องทำ เพราะนั่นก็แม่ นี่ก็แฟน ลองดูว่าเวลาหวานสัมภาษณ์ทุกวันนี้ มันแตะประเด็นอะไรไม่ได้เลย หวานลงดีเทลเรื่องไหนไม่ได้เลย เพราะนั่นคือความรู้สึกของคนที่หวานแคร์ทั้ง 2 คน บางเรื่องเป็นเรื่องส่วนตัวจริงๆ”คำพูดจาก เว็บสล็อตเว็บตรง
มีโอกาสที่จะกลับมาไหม ถ้าเขามาง้อหรืออะไร?
“มันยังไม่เกิดขึ้น หวานตอบไม่ได้ในเรื่องของอนาคตต่างๆ ถ้าหวานรู้มาก่อนมันก็จะไม่เป็นแบบนี้ ถ้าพูดกันแบบจริงๆ จังๆ ถ้าวันนึงเขามาขอโทษ ก็รอให้เป็นวันนั้นหวานถึงจะตอบได้ แต่ ณ วันนี้เป็นแบบนี้ก็ดีที่สุดค่ะ น่าจะเป็นความสัมพันธ์ที่เราเป็นเพื่อนกันได้ยาวๆ”
ล่าสุดที่เขาไปออกรายการ ก็มีขอโทษผ่านสื่อ เราได้ดูไหม?
“ดูไม่จบ รีบมาที่นี่ก่อน ใจหวานก็อยากซัพพอร์ตผ่านทีวีให้จบนะคะ แต่ว่าเราก็มีภาระหน้าที่การงานของเรา เดี๋ยวมีโอกาสจะไปดูย้อนหลังนะคะ”
มีประโยคที่เขาบอกว่า ยังรักเราอยู่ ก็เหมือนว่าต่างฝ่ายยังรู้สึกดีต่อกัน?
“ความรู้สึกดี มันไม่ได้เปลี่ยนได้ใน 10 วันที่เราเลิกกัน หวานก็มีความรู้สึกดี ความปรารถนาให้เขาเสมอ หวานรู้จักเขาดีมากๆ เพราะฉะนั้นหวานรู้ว่าโมเมนตืที่มันเกิดขึ้น ต่างฝ่ายต่างรู้สึกยังไง เราอยู่กันมานาน เพราะฉะนั้นก็ซัพพอร์ตกันไป อาจจะไม่ได้คุยกันบ่อย ในแง่ของจิตใจถ้าคุยกันบ่อยก็มูฟออนไม่ได้ ต่างคนต่างทำยังไง มันไปต่อไม่ได้ เพราะฉะนั้นเราก็อยู่กันอย่างมีสเปซ ทักทายกันบ้างอะไรบ้างได้”
ถ้าความสัมพันธ์นี้ ไม่มีคนที่ 3มาเกี่ยวข้อง คิดว่ายังไปต่อได้ไหม?
“บุคคลที่ 3 คือคุณแม่ใช่ไหมคะ คุณแม่ไม่ได้ยุ่งตั้งแต่ต้น เพราฉะนั้นอาจจะมีบ้างที่เขาหวงหรือห่วงลูกสาว หวานเป็นลูกสาวคนเดียว คนเป็นแม่ดูอยู่น่าจะเข้าใจหวานสามารถกลับกี่โมงก็ได้ ทำอะไรก็ได้ ตามใจชอบหมดเลย เพียงแต่ว่าทุกบ้านจะมีกฎ มีบางอย่างที่เขาขอเราไว้ เราเป็นลูกเขาให้เราได้ทุกอย่าง เราก็มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตาม ทำตาม แล้วก็ไมได้เป็นกฎที่สร้างมาเพื่อพี่กวางคนเดียว แต่เป็นมาตั้งนานแล้ว”
เรื่องเล็กของเรา แต่เป็นเรื่องใหญ่สำหรับคนอื่น ตรงนี้มองยังไงบ้าง?
“เรื่องใหญ่เล็กคนเราไม่เท่ากัน สำหรับหวานมองว่ามันเล็กน้อย น้ำผึ้งหยดเดียว ณ สถานการณ์วันนั้น เพียงแต่ว่าถ้าวันนี้มันเป็นเรื่องใหญ่ในความรู้สึกเขาเราต้องเคารพในความคิดของเขา ถ้าเขาว่ามันใหญ่จนเขาไม่ไหว แล้วเรารักเขา มันเวตกันไม่ได้ คนเราไม่เหมือนกัน เรามองว่าแก้ง่าย สบายมาก ง่ายยากของคนเราก็ไม่เหมือนกัน”
ในฐานะคนกลาง คุณแม่กับพี่กวาง มีโอกาสปรับความเข้าใจหรือเคลียร์ปัญหากันได้ไหม?
“ให้เวลาเป็นเรื่องของอนาคต ถ้าเกิดวันนั้นหวานจะมาอัปเดตผ่านไอจีว่าเขามีการมาพูดคุยกันแล้ว”
ยังรัก “กวาง” อยู่ไหม?
“ปรารถนาดีค่ะ รู้สึกดี ซัพพอร์ตกันตลอดไป ไม่ว่าในฐานะน้อง ฐานะเพื่อน หรือว่าในฐานะอะไรก็ตาม วันนึงต่างคนต่างมูฟออนไปแล้ว หวานก็ยังพร้อมที่จะหวังดีกับเขาต่อไป แต่ก็ต้องมีขอบเขตของคนข้างๆ ของแต่ละคนด้วย ถ้ามันเกิดขึ้นในอนาคต”
ราคาทองวันนี้ เปิดตลาดปรับขึ้นพรวดเดียว 350 บาท
เปิดความหมาย! เสียงหลอนสุดสยอง… “ธี่หยด” แปลว่าอะไร?
วันหยุดพฤศจิกายน 2566 เช็กปฏิทินวันหยุดราชการ-วันสำคัญ